ถุงผ้ารักษ์โลกร้อนโดยนำผลงานสร้างสรรค์ทางศิลปะจากแคนวาสของคนพิการ นำมาลงบนผลิตภัณฑ์ วัสดุเป็นถุงผ้าดิบมีหูหิ้ว 2 ข้าง เทคนิคการพิมพ์ลาย ระบบดิจิตอล DTG ขนาด 14x16 นิ้ว มีหูหิ้ว 2 ข้าง

โครงการหมู่บ้านศิลปะเพื่อมวลมนุษย์สำหรับเด็กพิการ (Art for All Village for Children with Disabilities) มีจุดประสงค์เพื่อเป็นสถานที่ในการพัฒนาศักยภาพแก่ผู้พิการทุกประเภท อาทิ คนตาบอด คนหูหนวก คนขาดแขน-ขาและคนปัญญาอ่อน ให้ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน การช่วยเหลือเกื้อกูล ฝึกที่จะเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ ตลอดจนการฝึกวิชาชีพเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข นอกจากนั้น หมู่บ้านศิลปะเพื่อมวลมนุษย์สำหรับเด็กพิการ ยังจัดให้เป็นสถานที่สำหรับดำเนินการกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดค่าย การจัดประชุมเสวนา การเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่การนำศิลปะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคนพิการ การจัดแสดงนิทรรศการและการจัดจำหน่ายผลงานของคนพิการภายในหมู่บ้าน
ศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ (Art for All) จากการริเริ่มบุกเบิกและทุ่มเทของ ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ โดยมีแนวคิดว่ามนุษย์ประกอบด้วยกาย ปัญญา และจิตใจ หากกีฬาเป็นเครื่องมือพัฒนาร่างกายและการศึกษาช่วยพัฒนาสติปัญญา "ศิลปะ" จึงเป็นสิ่งจรรโลงใจที่เปี่ยมด้วยความสุขและศานติ โครงการนี้ใช้ศิลปะกล่อมเกลาจิตใจและปลูกฝังคุณธรรมผ่านการเรียนรู้ร่วมกันโดยรวมบุคคลที่มีประสบการณ์ทางร่างกายที่แตกต่างกันให้เป็นเงาสะท้อนความคิดและจิตวิญญาณ จนเกิดแนวคิด "ห้าคนรวมเป็นหนึ่งอัจฉริยะ" ที่เป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้ด้อยโอกาส/ผู้พิการ
ผลงานของ Art for All ได้พัฒนาขยายจากศิลปะเพื่อเยาวชนสู่ศิลปะเพื่อผู้ต้องขังในเรือนจำ ตามพระราชดำริ และกลายเป็นแหล่งความรู้ที่ส่งเสริมให้เกิดการร่วมเรียนรู้ พัฒนาคุณธรรมและทักษะชีวิต ภายใต้ปรัชญา "ก้าวข้ามขีดจำกัด" ซึ่งช่วยให้เกิดเครือข่ายด้านศิลปะเพื่อพัฒนามนุษย์ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐในการดูแลกลุ่มเปราะบางอีกด้วย
ในโลกของความแตกต่างและความสมดุล คนตาบอดทำหน้าที่ เสมือนปาก-หู คนหูหนวกเป็นดวงตาให้กับเพื่อน ในขณะที่คนขาดแขน-ขา เป็นดั่งปัญญา โดยคนปัญญาอ่อน ซึ่งมีร่างกายเป็นแรงกาย และผู้ไม่พิการทีจิตเมตตาเป็นผู้ประสาน ดังนั้น "5 คน รวมเป็น 1 อัจฉริยะ" ในการร่วมสร้างสรรค์ผลงานมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถค้นพบศักยภาพของตนเอง เปลี่ยนทัศนคติเห็นคุณค่าชีวิตและสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข กว่า 20,000 คน ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้จนเป็นที่ยอมรับทั้งจากในและต่างประเทศ








