ความเป็นมาจากไร่เทพประทานพร

ทำไมถึงชื่อไร่เทพประทานพร ?

-ชื่อเทพประทานพรได้มาจากพ่อหลวงร.9 "เทพ" เปรียบเสมือนในหลวง "ประทานพร" มาจากพระราชดำรัส จึงรวมกันเป็น “ไร่เทพประทานพร” รายได้เป็นส่วนหนึ่งแต่การจุนเจือไปถึงชุมชนและคนรอบข้างเป็นปัจจัยสำคัญ

เริ่มต้นธุรกิจไร่เทพประทานพรได้อย่างไร ?

-ธุรกิจนี้เริ่มทำการขายปีเมื่อปี พ.ศ. 2555 เริ่มจากการทำกล้วยตากธรรมดา และค่อย ๆ เริ่มทำกันเป็นอาชีพ หลังจากทำเป็นอาชีพเองแล้ว ก็ยังได้แจกพันธ์กล้วยมะลิอ่องให้กับชาวบ้านเพื่อปลูก หลังจากได้ผลผลิตที่สวยงามก็นำมาส่งให้ที่คุณนุช เมื่อทางนายอำเภอสุวิทย์ได้เข้ามาเห็น ก็ช่วยสนับสนุนให้รับซื้อจากชาวบ้านอีกแรง

-ส่วนคุกกี้สูตรต่าง ๆ เริ่มทำตั้งแต่สมัยคุณแม่ของคุณนุช เริ่มแรกส่งตามร้านค้า ร้านขนม เริ่มตั้งแต่ใส่ถุง กลีบจีบ ตอนนั้นมีคุกกี้เพียง 2 ชนิด คือ คุกกี้มะม่วงและคุกกี้กล้วยตาก จนกรมพัฒนาชุมชนส่งคัดเลือกให้เป็นสินค้า otop ขึ้นเครื่อง เลยได้พัฒนา packging ให้มีความสวยงาม ทำฉลากโภชนากลาง จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์จากไร่เทพประทานพรมาจนถึงทุกวันนี้

เริ่มต้นการตลาดได้อย่างไร ?

เริ่มจากส่งของที่ร้านขายองฝากพิษณุโลก ร้านพิริมา, ร้านขายของฝากในสนามบินเอรี่ไทม์ Airy time เรียกได้ว่าขายดีมาก ส่งทุก ๆ 3 วัน จนของขาดตลาด นอกจากนี้ยังขายของออนไลน์ผ่าน facebook, [email protected] จากการออกบูธแสดงสินค้า 

รู้จักไร่เทพประทานพร

   ไร่เทพประทานพรเริ่มต้นจากการผลิตกล้วยตาก ใช้วิถีเกษตรพอเพียงเข้ามาปรับปรุงดิน ให้กล้วยที่ปกติแล้วมักจะปลูกขึ้นในเขตอำเภอบางกระทุ่มสามารถขึ้นในพื้นที่ได้ดีเช่นเดียวกัน จนกระทั่งเกิดปัญหาว่ามีกล้วยบางส่วนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ในการนำมาทำเป็นกล้วยตาก ด้วยปัจจัยหลายๆ ด้านด้วยความที่ยึดถือหลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงเกิดความคิดที่จะนำกล้วยเหล่านั้นกลับมาใช้ให้คุ้มค่าจนกลายเป็น "คุกกี้กล้วยตาก" ของไร่เทพประทานพร ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นการพึ่งพาตัวเองนำมาสู่การผลิตสินค้าที่จ้างแรงงานในชุมชน ปัจจุบันไร่เทพประทานพรต่อยอดด้วยการพัฒนาสายพันธุ์กล้วย ร่วมกับทางเกษตรอำเภอเพื่อแจกจ่ายให้กับชุมชนโดยรอบ โดยมีเป้าหมายให้ชุมชนนำกล้วยมาส่งขายคืนเพื่อสร้างรายได้ให้เกิดกับชุมชน และโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข ช่วยเพิ่มยอดการสั่งซื้อซึ่งจะเป็นการขยายการจ้างงาน และรายได้ที่จะกลับไปสู่ชุมชน

ติดต่อ : ไร่เทพประทานพร จังหวัดพิษณุโลก

ที่อยู่ : 274 หมู่ 10 ถนน สาย 11 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ อำเภอ วัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก 65160

วิธีรับประทาน

รับประทานเป็นของว่างหรือสามารถรับประทานคู่กับ ชา กาแฟหรือน้ำผลไม้

วิธีเก็บรักษา

สังเกต วันที่ผลิตและวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์

เรื่องกล้วย กล้วย

กล้วย ที่นิยมรับประทานกันในบ้านเรานั้นมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เช่น กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหักมุก เป็นต้น แต่สำหรับต่างชาติแล้วกล้วยที่นิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกล้วยหอม เนื่องจากกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าพูดถึงเรื่องประโยชน์แล้วมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุชัดเจนว่าการรับประทานกล้วยแค่ 2 ลูกจะช่วยเพิ่มพลังงานในร่างกายได้เทียบเท่ากับการออกกำลังกายถึง 90 นาทีเลยทีเดียว ! เพราะกล้วยอุดมไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติรวมถึง 3 ชนิดเลย นั่นก็คือ ซูโครส กลูโคส และฟรุกโทส ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายนั่นเอง

ประโยชน์ของการกินกล้วย

-ช่วยลดกลิ่นปากได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ควรรับประทานหลังตื่นนอนตอนเช้าทันทีแล้วค่อยแปรงฟัน และถ้าเป็นกล้วยน้ำว้าจะยิ่งช่วยลดกลิ่นปากได้ดีขึ้น

-กล้วยช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ

-กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และวิตามินซี

-ช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของคุณ เพราะมีสารที่ช่วยทำให้มีเกิดสมาธิและมีการตื่นตัวตลอดเวลา

-กล้วยก็มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเหมือนกันนะ ที่ช่วยในการชะลอความแก่ตัวของร่างกายนั่นเอง

-กล้วยมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้ เพราะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้ลดอาการอยากกินของจุกจิกลงได้พอสมควร

-สำหรับผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ กล้วยคือคำตอบสำหรับคุณ

-อาการหงุดหงิดยามเช้า กล้วยก็ช่วยคุณได้เหมือนกัน

-ช่วยลดอาการหงุดหงิดของผู้หญิงในช่วงประจำเดือนมา

-ช่วยลดอาการเมาค้างได้ดีระดับหนึ่ง เพราะจะช่วยชดเชยน้ำตาลที่ร่างกายขาดไปในขณะดื่มแอลกอฮอล์