โกโก้มีต้นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกา บริเวณเขตร้อนชื้น โดยชาวอินเดียนได้เริ่มทำการปลูกโกโก้และนำเมล็ดมาทำเป็นเครื่องดื่ม ส่วนชาวสเปนเป็นชาติแรกที่เริ่มทำเครื่องดื่มจากเมล็ดโกโก้ผสมกับน้ำตาลอ้อย ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้น จนสิ้นศตวรรษที่ 16 และมีการเพาะปลูกในแถบร้อนชื้นของทวีปอเมริกา เช่น ประเทศเม็กซิโก, โคลัมเบีย และเวเนซูเอล่า เป็นต้น ต่อมาได้นำมาปลูกในอาณานิคมของสเปน, ดัตช์ และโปรตุเกส
ส่วนในแถบเอเชีย ชาวดัตซ์ และชาวสเปนได้นำต้นโกโก้เข้ามาปลูกในประเทศอินโดนีเซีย และประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนในประเทศมาเลเซีย โกโก้ถูกนำเข้ามาที่เกาะบอร์เนียว รัฐซาบาห์ ในปี ค.ศ.1895 และในประเทศไทยถูกนำเข้ามาโดยหลวงราชคนิกร ในปี พ.ศ.2446 แต่ถูกละเลยเนื่องจากไม่เป็นที่รู้จัก ต่อมาในปี พ.ศ.2495 กรมกสิกรรม ดร.พิศ ปัญญาลักษณ์ ได้นำต้นโกโก้เข้ามาปลูกที่สถานีกสิกรรมบางกอกน้อย, สถานีกสิกรรมพลิ้ว, สวนยางนาบอน และสถานียางคอหงส์ และได้เริ่มต้นค้นคว้าวิจัยอย่างจริงจังเมื่อปี พ.ศ.2515 โดยกองการยาง
ขอบคุณภาพจาก https://www.bluekoff.com/Article.aspx?m=view&cat=3&id=37
โกโก้ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Theobroma cacao L. ที่นิยมนำมาปลูกในเขตร้อน
ลำต้น - เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ ลำต้นตั้งตรง บริเวณลำต้นมีปุ่มตาดอก อยู่กระจายทั่วลำต้น
ราก - รากแก้วของต้นกล้า จะงอกลงดินตามแนวดิ่งประมาณ 2 เมตร และรากแขนงยาวประมาณ 5-6 เมตร แต่การปลูกแบบชำกิ่งจะไม่มีรากแก้ว จะมีรากแขนงประมาณ 2-3 ราก
ใบ - ลักษณะเป็นใบเดี่ยว ก้านใบยาว ทรงเรียว ปลายใบแหลม
ดอก - จะออกดอกตามต้นหรือตามกิ่ง ลักษณะเป็นรูปถุง กลีบดอกมี 5 กลีบ เป็นสีชมพู และมีดอกสีขาวเหลือง
เมล็ดโกโก้ - ลักษณะเป็นรูปวงรี ขนาดประมาณ 1.3 เซนติเมตร เป็นสีน้ำตาล มีเยื่อหุ้มเมล็ดบาง ๆ รสหวาน
ขอบคุณภาพจากอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา https://bit.ly/3ExOjds
ประโยชน์ของโกโก้
- มีสารโพลีฟีนอล(Polyphenol) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ที่พบได้ในอาหาร ช่วยลดการอักเสบ ลดความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล
- มีฟลาโวนอยด์ ช่วยควบคุมอาการของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพราะฟลาโวนอลจะช่วยชะลอการย่อยคาร์โบไฮเดรตและการดูดซึมในลำไส้ ควบคุมการหลั่งอินซูลิน แต่ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป
- ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท ช่วยกระตุ้นการผลิตสารไนตริกออกไซด์ (nitric oxide)
- ช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นและเครียดน้อยลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดการอักเสบและเพิ่มการออกซิเดชันของไขมัน ทำให้รู้สึกอิ่ม
กระบวนการก่อนจะเป็นผงโกโก้
- การเก็บเกี่ยว ผลโกโก้ที่ได้จากต้น ข้างในผลจะมีเมล็ดอยู่จำนวน 30-50 เมล็ด เมื่อผลโกโก้แก่จัด จะนำไปแกะเมล็ดออก แล้วนำไปหมัก
- การหมัก หมักเป็นเวลา 5-6 วัน เมล็ดโกโก้จะเกิดรูพรุนและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ทำให้มีรสชาติและกลิ่นที่ดี ความขมลดลง
- การทำให้แห้ง หลังหมักเสร็จ นำโกโก้มาตากแห้ง นิยมใช้วิธีตากแดด ใช้ระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ หรือหากเป็นโรงงานจะใช้เครื่องจักรให้ความร้อน เพื่อลดความชื้น ในขั้นตอนนี้เมล็ดจะมีสีเข้มขึ้น จนออกสีน้ำตาลเข้ม
- การคั่วเมล็ดโกโก้ หลังจากคัดคุณภาพ และทำความสะอาด จะนำมาคั่ว 10-30 นาที ที่อุณหภูมิ 120-130 องศาเซลเซียส เป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะจะส่งผลกระทบต่อรสชาติของโกโก้ หลังคั่วเสร็จ จะใช้ลมหรือการร่อน เพื่อกำจัดเปลือกหุ้มออก
- การบด นำเมล็ดมาบดด้วยความเร็วและอุณหภูมิสูง เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหนืด (Cocao liquor) ซึ่งมีองค์ประกอบเป็นไขมันโกโก้ 53-55% และนำ Cocao liquor ไปเข้าเครื่องอัดรีดแยกไขมันโกโก้ ส่วนที่เป็นสีขาวออกจากส่วน Cocoa Cake สีน้ำตาลเข้ม
- นำส่วนที่แยกไขมันออก (Cocoa Cake) แล้วไปบด และร่อนอีกรอบเพื่อให้ได้ผงโกโก้ออกมา จะมีไขมันเหลืออยู่ 0-26% นั่นเอง
วันนี้ ThailandPostMart มีโกโก้หลากหลายมาให้ทุกคนได้ลองกันค่ะ กับ
- ผงโกโก้ 100% ด้วยวัตถุดิบคุณภาพจากเกษตรกรไทย ที่ผ่านกระบวนการคัดสรรคุณภาพเข้าสู่กระบวนการผลิตแบบ Dutch process ทำให้มีรสชาติเข้มข้น และ มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
สนใจสั่งซื้อสินค้าคลิก https://bit.ly/3PwYLsb
Boom Cocoa Plus ดาร์กโกโก้แท้ เข้มข้น หอมละมุน มาพร้อมโปรตีน ไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุ ช่วยลดความอยากอาหาร ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และใส่ใจสุขภาพ
สนใจสั่งซื้อสินค้าคลิก https://bit.ly/44RROpU
เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผง เพิ่มสุข โกโก้ ผลิตจากเมล็ดโกโก้แท้ 100% หอม หวาน มัน ลงตัว ความอร่อยที่มาพร้อมสุขภาพดี ทานได้ทั้งร้อนและเย็น
สนใจสั่งซื้อสินค้าคลิก https://bit.ly/3ED3Jxj