"ข้าว" เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมานานกว่า 5,500 ปีแล้ว ในสมัยสุโขทัยยังมีศิลาจารึกที่ถูกบันทึกไว้ด้วยข้อมูลที่กล่าวว่า "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" เป็นหนึ่งหลักฐานที่สามารถยืนยันได้อย่างดี นอกจากจะเป็นอาหารหลักที่ให้พลังงานแล้ว ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย โดยข้าวในประเทศไทยปัจจุบันมีถึง 12 สายพันธุ์ ที่ให้รสชาติและสัมผัสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งคุณประโยชน์และสารอาหารอย่างหลากหลาย รวมถึงที่มาของข้าวแต่ละสายพันธ์ที่มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป
วันนี้ ThailandPostMart อยากพาทุกคนไปดูข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อน ข้าวที่ปลูกในพื้นที่ที่มีแม่น้ำมอญไหลผ่านแหล่งน้ำพุร้อนออร์แกนิค จังหวัดลำปาง พร้อมเสริมมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี UTD RF ที่ช่วยกำจัดแมลงอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จะน่าสนใจยังไง ไปดูกันเลยค่ะ
ข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อน เป็นข้าวเจ้าพันธุ์มะลิดำหนองคาย 62 หรือ กข.83 ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวเฉลิมพระเกียรติ ร.10 ในโครงการ “พันธุ์ข้าวใหม่เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก” เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีลักษณะพิเศษตรงที่เป็นข้าวเจ้าหอมสีม่วงดำ สามารถปลูกได้ทั้งนาปีและนาปรัง และให้ผลผลิตได้ค่อนข้างสูง โดยมีลักษณะประจำพันธุ์คือ มีเมล็ดยาว รูปร่างเรียว มีคุณภาพสีที่ดีมาก
อีกทั้งอธิบดีกรมการข้าวยังได้พูดถึงคุณประโยชน์ของข้าวสายพันธ์ุนี้ว่า “ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง รวมถึงกรดเฟอรูลิค แกมมาออไรซานอล วิตามินอี ฟีนอลิค และฟลาโวนอยด์ เมื่อหุงสุกจะได้ข้าวสวย เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอม น่ารับประทาน เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคข้าวเพื่อสุขภาพ ”
หนึ่งในจุดเด่นของข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อนคือ มีการเพาะปลูกในพื้นที่ที่มีแม่น้ำมอญไหลผ่าน โดยมีต้นกำเนิดจากขุนแม่มอญ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน รวมเป็นสายน้ำแร่สู่แม่น้ำมอญหล่อเลี้ยงต้นข้าวในพื้นที่เพาะปลูก อ.เมืองปาน กว่า 30 ไร่ จนได้มาซึ่งข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อน ที่มีลักษณะเฉพาะในแหล่งภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติ คือ เป็นแหล่งน้ำที่อาศัยสายน้ำแร่จากน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ออร์แกนิค 100 เปอร์เซ็นต์ แห่งเดียวในประเทศไทย
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกรรมวิธีที่ใส่ใจ มีการดูแลกระบวนการผลิตอย่างละเอียดทุกขั้นตอน และเข้าสู่กระบวนการแปรรูป ณ โรงสีสหกรณ์การเกษตรห้างฉัตร จำกัด ที่ได้รับรางวัลโรงสีระดับดาวทองจากกระทรวงพาณิชย์ โดยผ่านกระบวนการกำจัดแมลงและไข่แมลงในข้าวด้วยเทคโนโลยีกำจัดแมลงและไข่แมลงในข้าวตลอดวงจรชีวิต หรือที่เรียกว่า UTD RF Technology ซึ่งเป็นกระบวนการกำจัดแมลงและไข่แมลงที่มีประสิทธิภาพ และปลอดสารเคมีตลอดกระบวนการ
UTD RF Technology เป็นผลงานวิจัยของคณะวิจัย คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ใช้หลักการคลื่นความถี่วิทยุ ส่งผ่านไปยังข้าวทำให้เกิดการสั่นสะเทือนจนกลายเป็นพลังความร้อนกระจายออกไป ส่งผลให้สามารถกำจัดแมลงและไข่แมลงในข้าวสารได้ตลอดทั้งวงจรชีวิต โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของข้าว ซึ่งถือเป็นฝีมือของคนไทยเพื่อคนไทยโดยฉพาะเลยทีเดียวค่ะ
ใครที่อยากอุดหนุนสินค้าของคนไทยเพื่อคนไทย ข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อน จากจังหวัดลำปาง ข้าวที่ปลูกในพื้นที่ที่มีแม่น้ำมอญไหลผ่านแหล่งน้ำพุร้อนออร์แกนิค 100 % ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ก็สามารถสั่งซื้อบนเว็บไซต์ ThailandPostMart ได้ที่ https://bit.ly/3uWQFze
รับรองว่าข้าวที่หุงออกมามีเมล็ดเรียงสวย เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอม น่ารับประทาน แถมยังปลอดภัย รับประทานด้วยความอุ่นใจด้วยมาตรฐาน UTD RF พี่ไปร ฯ ฟันธง !
ขอบคุณที่มา
เชียงใหม่นิวส์. (10 มีนาคม 2564 ). คณะเทคโนโลยีการเกษตร ม.ราชภัฏลำปาง จัดงาน “แจ้ซ้อนม่วนใจ ครั้งที่ 2” ชู “ข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อน”สิ่งบ่งชี้ภูมิศาสตร์ลำปาง. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 , จาก https://www.chiangmainews.co.th/.
ศูนย์สื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์. (13 มิถุนายน 2562 ). NIA จับมือมูลนิธิข้าวไทยฯ จัดประกวดนวัตกรรมข้าวไทยปี 62 พร้อมยกระดับงานวิจัย มช. ติดตั้งเครื่องกำจัดมอดด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Bio-Q) ด้วยกระบวนการ UTD RF เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 , จาก https://cmu.ac.th/th/article/.
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (29 กันยายน 2563 ). UTD RF ตราประทับรับรองความปลอดภัยในข้าว เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมข้าวไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 , จาก https://sdgs.cmu.ac.th/th/ArticleDetail/.
สยามรัฐออนไลน์. (29 กันยายน 2563 ).มารู้จัก "มะลิดำหนองคาย 62" พันธุ์ข้าวเฉลิมพระเกียรติ ร.10. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 , จาก https://siamrath.co.th/.