รู้หรือไม่ วาเลนไทน์ จุดเริ่มต้นที่ไม่ได้มาจาก ดอกกุหลาบ



19 Jan 2020


เมื่อเดือนกุมภาพันธ์เริ่มต้นขึ้น หนุ่มสาวหลายคนต่างก็รอคอยวันแห่งความรักและวันแห่งความรักที่เรากำลังพูดถึงอยู่ ก็คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีนั่นเอง วันนี้ต่างก็เต็มไปด้วยกลิ่นของความอบอุ่น อบอวลไปด้วยความรักจากคู่รัก ครอบครัว เพื่อน พี่น้อง ที่ต่างแสดงความรักต่อกันอย่างสุดซึ้ง บ้างก็ซื้อของขวัญ ซื้อตุ๊กตา ซื้อดอกไม้ ดอกกุหลาบเป็นของขวัญแทนความรัก แต่คุณรู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว ดอกไม้ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของวาเลนไทน์ไม่ใช่ ดอกกุหลาบอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ ดอกอัลมอนด์สีชมพูต่างหากที่เป็นตัวแทนของความรู้สึกทั้งหมด


ตำนานรักที่ทุกคนควรรู้

ตำนานเล่าว่า วันวาเลนไทน์ กำเนิดขึ้นมาในกรุงโรม หรืออาณาจักรโรมัน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ในช่วงยุคของจักรพรรดิคลอดิอุส ที่สอง ซึ่งมีนิสัยชอบข่มเหงรังแกผู้อื่น บังคับให้ชาวโรมันทุกคนต้องสักการะพระเจ้าทั้ง 12 องค์ และห้ามไม่ให้เกี่ยวข้องกับพวกคริสเตียน ใครคิดต่อต้านจะได้รับทำโทษอย่างหนัก แต่มีนักบุญผู้หนึ่งที่ชื่อว่า วาเลนตินุส (Valentinus) เขามีเลื่อมใสศรัทธาต่อพระคริสต์เป็นอย่างมาก จนการได้รับการยกย่องเป็น เซนต์ วาเลนไทน์ ในภายหลัง ซึ่งมักจะคอยลักลอบแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียน จนตัวเองถูกจับขังและรับโทษทรมานแสนสาหัสอยู่ในคุก ขณะที่กำลังถูกคุมขังอยู่นั้น ผู้คุมขังได้ร้องขอให้วาเลนตินุสช่วยสอนจูเลียผู้เป็นลูกสาวที่ตาบอดตั้งแต่เกิด แม้ว่าจูเลียจะเป็นหญิงงาม แต่ก็อาภัพมองไม่เห็น วาเลนตินุสจึงได้สอนประวัติศาสตร์ สอนการคิดคำนวณ และเล่าเรื่องพระเจ้าให้เธอฟัง ด้วยความฉลาดของจูเลีย เธอจึงสามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ได้อย่างถ่องแท้ และเธอก็รู้สึกเชื่อใจในตัววาเลนตินุส และมีความสุขอย่างมากเมื่ออยู่กับเขา

วันหนึ่ง จูเลียเอ่ยถามวาเลนตินุสว่า “หากเราอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะทรงได้ยินเราไหม” วาเลนตินุสจึงตอบไปว่า “พระองค์เจ้าได้ยินเราทุกคนแน่นอน” จูเลียจึงกล่าวต่อว่า “ท่านทราบหรือไม่ ในทุก เช้าเย็น ข้าทูลอธิษฐานขออะไร….ข้าต้องการอยากจะมองเห็นโลกใบนี้ และเห็นทุก ๆอย่างที่ท่านเล่าให้ฟัง” วาเลนตินุสจึงตอบกลับไปว่า “พระเจ้าย่อมมอบแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน แต่ต้องมีความเชื่อมั่นในพระองค์เท่านั้นเอง” ด้วยความเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้า จูเลียจึงนั่งคุกเข่าและกุมมืออธิษฐานขอพรไปพร้อมๆกับ วาเลนตินุส และเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น เมื่อจูเลียค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เธอก็สามารถมองเห็นได้ และเรื่องนี้ก็เป็นที่กล่าวถึงกันไปทั่วทั้งราชอาณาจักร ก่อนที่วาเลนตินุสจะถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายให้แก่จูเลีย ซึ่งลงท้ายจดหมายว่า From Your Valentine” วาเลนตินุสเสียชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 และศพของวาเลนตินุสถูกเก็บไว้ในโบสถ์พราซีเดสที่กรุงโรม ใกล้หลุมศพนั้น จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอนด์สีชมพู เอาไว้เพื่อมอบแต่วาเลนตินุสผู้เป็นที่รัก จนทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูหรือ หรืออัลมอนด์สีชมพู จึงกลายเป็นตัวแทนแห่งความรักนิรันดร์และมิตรภาพอันแสนยาวนาน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตำนานรักซึ้งกินใจจนอยากมีคู่ใจมาร่วมรักสักคนเลยไหมเอ่ย ? แต่เนอะ หากใครที่กำลังโสด ก็ไม่ต้องร้องไห้นะคะ เพราะโสดยังไงเราก็มีรักได้อยู่ดี แม้ไม่ใช่รักแบบคู่รักเหมือนคนอื่น แต่เป็นรักที่ได้รับจากครอบครัว เพื่อน พี่น้อง ที่พร้อมให้เราเต็มที่ ส่วนใครที่กำลังมีความรัก มีแฟน มีครอบครัว ก็อย่าลืมมอบความรักดี ๆ แบบนี้ให้กันทุกวันนะคะ เพราะความรักมีได้ก็หมดได้เช่นกันค่ะ


ไม่รู้จะซื้อดอกไม้อะไรไปให้แฟนดี วันนี้แอดมีความหมายดี ๆ จากดอกไม้มาฝาก



1.ดอกกุหลาบสีแดง คือการบ่งบอกถึงความรัก การให้ที่ลึกซึ้ง เป็นความหมายที่คนทั้งโลกเข้าใจตรงกัน มักมอบให้กับคนที่รักกันเป็นสื่อทางใจ เพราะสีแดงนั้นเปรียบเสมือนสีของหัวใจ

2.ดอกลิลลี่สีขาว คือความรักที่บริสุทธิ์ อ่อนหวานและจริงใจ เหมาะที่จะใช้ในโอกาสแสดงความยินดีตามเหตุการณ์ต่างๆ

3.ดอกกุหลาบสีชมพู คือการแสดงความรักแบบโรแมนติก แสดงถึงความรักที่จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

4.ดอกกุหลาบสีเหลือง คือสัญลักษณ์ของมิตรภาพและความห่วงใยที่มีให้กัน นอกจากนั้นยังหมายถึงสุขภาพได้อีกด้วย

5.ดอกคาเนชั่นสีชมพู คือตัวแทนของความรักที่กำลังเบ่งบานเป็นสีชมพู

6.ดอกกุหลาบสีขาว คือสัญลักษณ์ของความรักที่บริสุทธิ์ ไม่หวังผลใดๆ ตอบแทน เหมาะสำหรับมอบให้กับผู้มีพระคุณ และอาวุโสกว่า

7.ดอกทิวลิปสีแดง คือ การแสดงออกถึงความรักอย่างเปิดเผย

8.ดอกฟอร์เก็ตมีน็อต คือ รักแท้ อย่าลืมฉัน อย่าลืมความรู้สึกดี ๆ ให้กัน

รู้ความหมายดี ๆ แบบนี้แล้ว คนรักของใครเป็นคนสไตล์ไหน อยากให้ความรักของคุณเป็นรูปแบบไหน อย่าลืมดูความหมายดอกไม้ก่อนจะซื้อให้เป็นของขวัญกันนะคะ


ใครที่อยากมอบรักดี ๆ แต่ยังไม่มีของขวัญถูกใจให้คนรัก วันนี้เรามีมาเสนอ ?

1.สำหรับครอบครัวส่งมอบความสุขในช่วงเวลาแสนพิเศษให้ครอบครัวคุณด้วย กระเช้ารักจากทุ่ง เรียกได้ว่า พ่อแม่ได้ไปประทับใจไม่รู้ลืม http://bit.ly/2G7Cn40



2.สำหรับของขวัญให้ผู้ชาย เนคไทอีกหนึ่งไอเทมที่คุณผู้ชายต้องมีติดตู้ ถึงแฟนคุณจะไม่ได้ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่มันก็ต้องมีสักวันที่เขาต้องแต่งตัวดีๆ ไปงานดินเนอร์ หรือไปงานแต่งงานที่ต้องแต่งตัวสุภาพ เพราะฉะนั้นควรเลือกเนคไทที่ทำจากวัสดุอย่างดี ดูหรูหรา มีสไตล์นำมาใส่คู่กับชุดสูทอะไรก็ดูดี http://bit.ly/2NIzfjv



3.สำหรับของขวัญให้ผู้หญิง หากจะซื้อของขวัญให้คุณผู้หญิงสักชิ้น ต้องเป็นเซตบำรุงผิวหน้าดี ๆ สักชุด เชื่อได้เลยว่า ผู้หญิงคนไหนได้ไป ประทับใจจนลืมไม่ลงเลยค่ะ  http://bit.ly/37azNX3

4.ของขวัญสำหรับคนโสด ถ้าใครที่ยังไม่มีคู่ และอยากจะมีความรักกับเขาสักที ต้องลองพึ่งบารมีของมงคลกันหน่อยแล้วค่ะ 


สายมูถูกใจสิ่งนี้ เสริมดวงรักพุ่ง รักรุ่ง มุ่งหาคู่



1.แหวน Moon in a day ความรักแหวนเล็กๆน่ารักที่ทําจากมูนสโตนที่มีประกายวิ้งวับช่วยเรื่องเพิ่มเสน่ห์ ให้คนรักคนเมตตา http://bit.ly/3aKmD54


2.กำไล Sparking Love ความรักโรสควอตซ์ช่วยในเรื่องความรัก และความเมตตาจากคนรอบข้าง เป็นหินแห่งรักแท้ http://bit.ly/2O4g9Es



3.สร้อยข้อมือปี่เซียะสีชมพู เสริมดวงเสน่ห์เมตตามหานิยม เหมาะสำหรับคนที่เกิดวันอังคาร 

http://bit.ly/3aWmoEn



4.สร้อยข้อมือหินมงคล หินโรโดโคไซน์ ช่วยบำบัดและรักษาแผลใจของผู้ที่ผิดหวังในความรัก เป็นหินที่ดึงดูดความรักความผูกพันมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ คนโบราณจึงเรียกหินชนิดนี้ว่า“หินดึงดูดรัก” http://bit.ly/3aPf2Ck







5.กำไล Moonlight's Charm ขึ้นชื่อเรื่องเสน่ห์อันเย้ายวนใจ รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยน มีเสน่ห์ สงบ และช่วยทำให้ใจเย็นมากยิ่งขึ้น คล้ายกับแสงจันทร์สีนวลในคํ่าคืนอันมืดมิด http://bit.ly/2O2Chz9




ได้ทั้งความรู้เรื่องวาเลนไทน์ ได้ทั้งความหมายดี ๆ ของดอกไม้สุดพิเศษ ได้ทั้งของขวัญสุดแสนโรแมนติกให้คนที่คุณรักกันไปครบถ้วน เอาเป็นว่าวันวาเลนไทน์ปีนี้ ขอให้ทุกคนได้รับความรักกันอย่างเต็มที่ แต่ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมมอบความรักให้กันทุกวันไม่ใช่แค่วันสำคัญวันเดียวนะคะ


แต่ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อของขวัญอะไรให้กับคนที่คุณรัก อย่าลืมให้โอกาส www.ThailandPostMart.com เว็บไซต์ที่รวบรวมสินค้าทุกอย่างไว้ที่นี่ที่เดียว การันตีได้ว่าได้ของครบทุกความต้องการจริง ๆ ค่า 


เช็กดวงความรักส่งท้ายกันหน่อย ?