3 ที่เที่ยวบึงกาฬ ละลานตาจนต้องไปดูด้วยตัวเอง



15 Jan 2019

3 ที่เที่ยวบึงกาฬ ละลานตาจนต้องไปดูด้วยตัวเอง

จังหวัดที่ 77 อย่าง ‘บึงกาฬ’ จังหวัดใหม่ถอดด้ามของประเทศไทยที่ใครๆ หลายคนอาจไม่รู้ว่า จังหวัดล่าสุดแห่งนี้มีของดีซุกซ่อนอยู่มากมาย เพราะด้วยพื้นที่ติดแม่น้ำสายสำคัญอย่าง ‘แม่น้ำโขง’ ทำให้บริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยวิถีชุมชนที่น่าศึกษา แหล่งความเชื่อทางพระพุทธศาสนาอันทรงคุณค่า และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่รักษาสภาพเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ จนคุณต้องตะลึงไปกับความงามกับเป็นแถบๆ แบบนี้ ‘บึงกาฬ’ ชักเริ่มน่าสนใจในการเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวครั้งต่อไปของคุณแล้วใช่ไหมล่ะ

เตรียมตาของคุณไว้ให้พร้อม แล้วไปสัมผัสกับความตื่นตาตื่นใจในจังหวัดแห่งนี้กันได้เลยกับ ‘บึงกาฬ’ ไกด์อย่างเราขอจูงมือท่าน Let’s GO! ไปด้วยตัวเองเลย

วัดอาฮงศิลาวาส จ.บึงกาฬ

ความสวยงามของ ‘วัดอาฮงศิลาวาส’ ใครเลยจะเชื่อว่า วัดนี้ในสมัยก่อน เคยเป็นสำนักสงฆ์ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้หนาทึบมาก่อน โดยในปี พ.ศ. 2506 ได้มีการซ่อมแซมมาแล้ว 1 ครั้งจาก ‘หลวงพ่อลุน’ ที่จำวัด ณ วัดแห่งนี้ และหลังจากที่ท่านมรณภาพไปในปีเดียวกัน ก็ไม่ได้รับการบูรณะหลังจากนั้นอีกเลย อีกทั้งไม่มีพระภิกษุสงฆ์มาจำวัดประจำ ณ วัดแห่งนี้ โดยวัดเป็นเพียงแค่ทางผ่านหรือที่พำนักอาศัยของพระธุดงค์ชั่วคราวเท่านั้น จนในปี พ.ศ.2517 หลวงพ่อสมาน สิริปญฺโญ (พระนิเทศศาสนคุณ) ได้ผ่านมาเห็น ‘วัดอาฮงศิลาวาส’ ที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม และหลงเหลือเพียงแค่แม่ชีอยู่ดูแล จึงได้มีความคิดที่จะบูรณะวัดดังกล่าวให้มีสภาพที่ดีขึ้น โดยได้เกณฑ์พุทธศาสนิกชนมาร่วมบุญครั้งใหญ่เพื่อซ่อมแซมวัดดังกล่าว ทำให้วัดกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในบรรยากาศที่ร่มรื่น เหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรมและทำกิจกรรมของสงฆ์ รวมถึงใช้ประโยชน์ในการสืบสานพระพุทธศาสนาให้เจริญงอกงามยิ่งๆ ขึ้นไป และได้ตั้งชื่อให้กับวัดนี้ใหม่ในนาม ‘วัดอาฮงศิลาวาส’

นอกจากจะมีพระอุโบสถที่เป็นหินอ่อนสวยงามแล้ว วัดยังตั้งใกล้อยู่กับ ‘สะดือแม่น้ำโขง’ ซึ่งถือเป็นจุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขงเลยก็ว่าได้ อีกทั้งจากความลึกนี่เอง ทำให้ชาวบ้านมีความเชื่อในเรื่องของ ‘ตำนานพญานาค’ เกิดขึ้นด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดแห่งความศัทธาของคนในท้องถิ่นโดยแท้ รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสายอีกด้วย ไปแวะเวียนชมความโลคอลที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวพุทธบูชาได้ที่ ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ

บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

บึงแห่งนี้มีหลากหลายหน้าที่มากๆ สำหรับนักท่องเที่ยว เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกก็ได้ หรือเป็นแหล่งชมนกทางธรรมชาติก็ดี เพราะที่นี่ที่ ‘บึงโขงหลง’ ถือเป็นแหล่งน้ำจืดและทะเลสาบขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ที่นักท่องเที่ยวจะชอบนั่งเรือชมวิวรอบบึง เพราะทัศนียภาพของ ‘บึงโขงหลง’ นอกจากต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นในน้ำแล้ว ภายในบึงยังเน้นเรื่องราวของนกเป็นพิเศษ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่แห่งการอนุรักษ์นกย้ายถิ่น โดยเฉพาะนกที่อพยพเข้ามาในช่วงฤดูหนาว ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งที่มีความหลายหลายทางชีวภาพอย่างยิ่ง คุณจะได้เห็นห่านป่า นกยาง นกกระเต็น และตัวละครเด่นอย่าง ‘นกเป็ดน้ำ’ ซึ่งถือเป็นเจ้าภาพสำคัญของบึงนี้ จนได้เป็นมาสคอตประจำจังหวัดไปโดยปริยาย ซึ่งได้ใช้ชื่อว่า ‘บักมี่’ ถ้าใครได้ไป ก็จะได้เห็นของที่ระลึกของ ‘เจ้าบักมี่’ ตั้งเรียงรายขายอยู่มากมายภายในจังหวัด

ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเหือดแห้งหายไปด้วย เพราะ ‘บึงโขงหลง’ เป็นบึงที่มีน้ำตลอดทั้งปี ต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดเวลา และยังอุดมไปด้วยสัตว์น้ำจืดนานาชนิด ที่ช่วยให้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งนี้มีเสน่ห์และดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวหลายคนได้แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม พร้อมกับฉากหลังที่เป็นภูลังกา ภูเขาที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครพนม ตั้งเด่นเป็นสง่าเหนือน่านน้ำ ‘บึงโขงหลง’ อีกด้วย เห็นทีไม่แวะเวียนไปไม่ได้แล้วกับบรรยากาศสดชื่น ชุ่มฉ่ำปอดแห่งนี้ เดินทางกันไปได้เลยที่ ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง

ขอบคุณรูปภาพจาก : พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จ.บึงกาฬ Facebook Fanpage

พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จ.บึงกาฬ

ลืมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงอยู่ในอาคารหรือตึกไปได้เลย เพราะที่นี่จะทำให้การจัดแสดงนิทรรศการมีชีวิตแบบตาเห็น กายสัมผัส กับ ‘พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต’ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งเรียนรู้ชุมชนของ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย โดยมีศูนย์บัญชาการการจัดการความรู้และพิพิธภัณฑ์ เป็นบ้านไม้ทรงอีสานโบราณที่มีอายุอานามมากกว่า 60 ปี แต่ยังคงรักษาสภาพไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีการจัดการความรู้ชมชนไปพร้อมๆ กับนำศิลปะแบบโมเดิร์นเข้ามาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ทำให้พิพิธภัณฑ์ของที่นี่มีสีสันและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา จากประเพณี วัฒนธรรม และความเป็นท้องถิ่นที่นำเสนอโดยคนในชุมชนด้วยกันเอง พิพิธภัณฑ์จึงมีอัตลักษณ์ที่เหมือนใคร ด้วยการนำเสนอและจัดแสดงจากบุคคลที่ท้องถิ่นที่ร่วมกันสร้าง กลายเป็นการบูรณาการทางวัฒนธรรมที่เข้ากับความเป็นพื้นถิ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ เช่น Street Art แบบชุมชน ถ่ายรูปแบบชิคๆ ได้ไม่มีเบื่อ Music แบบอีสานสไตล์ ที่ขับกล่อมให้คุณต้องลุกขึ้นมาเต้นแบบม่วนซื่นโฮแซวแน่นอน

พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุกกกันอีกมากมาย ที่ยกเป็นตัวอย่างเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ลิ้มลองความสดใสซาบซ่าให้อินไปกับความเป็นอีสานประยุกต์กันได้ ทุกวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น. พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เยี่ยมชมฟรีตลอดงานจ้า


วิถีชุมชนก็ได้ สร้างศรัทธาแห่งความเป็นพุทธก็ดี ปิดท้ายด้วยธรรมชาติงานเยี่ยม ละลานตาไปหมดจริงๆ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใน  จ.บึงกาฬ อีกหลายที่ให้คุณได้ไปสัมผัส หากใครมีเวลา จัดทริปไป ‘บึงกาฬ’ สักครั้ง รับรองความคุ้มค่าที่ตีตั๋วมาไกลจากกรุงเทพฯ แน่นอน แต่ถ้าหากยังไม่มีเวลายาวๆ ขนาดนั้นแล้วล่ะก็ สัมผัสความฟินกับ ‘จ.บึงกาฬ’ ได้ก่อนใคร ด้วยสินค้าดีที่เสิร์ฟให้คุณถึงที่ และช้อปได้แบบไม่ต้องเกรงใจเรื่องกระเป๋าฉีก เพราะที่นี่จัดราคาให้คุณแบบเอื้อมถึงได้กับเว็บไซต์ http://www.thailandpostmart.com/ การันตีความดีงามระดับ 5 ดาวไปเลย 

อย่าลืม ติดตามรายการ 'ตะลอนทัวร์เที่ยวทั่วไทย' กันด้วย ทุกวันเสาร์เวลา 10.00 น. ทางช่อง 3 และช่อง FAMILY13  หรือ Live! ผ่านทาง YOUTUBE, Facebook : Bectero.tv ที่สำคัญอย่าลืมกดปุ่ม Subscribe ช่อง Bectero.tv ให้ด้วยนะ

รีวิวสถานที่อื่นๆ ทั้งที่กินและที่พักก็ขอฝากเอาไว้ด้วยแล้วกันนะ ด้วยการเข้าไปอ่านย้อนหลังกันแบบเพลินๆ ได้ที่  http://www.thailandpostmart.com/  ตระการและละลานตาเรื่องกิน ช้อป ชิลจ้า

 #ThailandPostmart #ตะลอนทัวร์เที่ยวทั่วไทย #ไปรษณีย์ไทย