เช็กอิน 3 ที่เที่ยวเมืองชาละวัน ไว้ไปด้วยกันนะ



10 Aug 2018

STORY : APISARA

จังหวัดพิจิตร เส้นทางสู่ภาคเหนือที่มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “เมืองชาละวัน”  เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสุโขทัยที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้พวกเราได้ไปเช็กอินความทรงจำกันอย่างเต็มที่ วันนี้เราเลยเลือกแลนมาร์กสำคัญที่ใครไปพิจิตรจะต้องไปเยี่ยมชม ไม่อย่างนั้นจะเรียกได้ว่ามาไม่ถึงจังหวัดพิจิตร ถ้าพร้อมแล้วเก็บกระเป๋า แบกกล้อง พร้อมลุยจังหวัดพิจิตรกับเรากันได้เล้ยยยย !!!

1.บึงสีไฟ

ที่อยู่ : ตำบล ในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร พิจิตร 66000

ขอบคุณรูปภาพจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

หนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดฮิตเมื่อได้มาจังหวัดพิจิตรคงหนีไม่พ้น “บึงสีไฟ” แหล่งน้ำขนาดใหญ่อันดับสามของประเทศ มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองพิจิตร ความโรแมนติกของที่นี่ คือการได้ชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น รับลมธรรมชาติ รับอากาศบริสุทธิ์ แค่นี้ก็เรียกได้ว่าจัดเต็มความฟินก็เกินร้อย นอกจากนี้ภายในบึงสีไฟก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ,รูปปั้นพญาชาละวัน,สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ และศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองจังหวัดพิจิตร แต่ละที่จะมีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมบ้างนั้นวันนี้เรามีคำตอบมาฝาก

สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ พิจิตร สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 80 พรรษา เมื่อพ.ศ. 2527 มีเนื้อที่ประมาณ 170 ไร่ เป็นสวนพักผ่อนริมบึงสีไฟ มีสะพานทอดลงสู่น้ำศาลาใหญ่ นักท่องเที่ยวนิยมมาให้อาหารปลา และชมพระอาทิตย์อัสดง

รูปปั้นพญาชาละวัน เป็นรูปปั้นจระเข้อยู่ด้านหน้าของบึงสีไฟ ที่มีความยาวถึง 38 เมตร กว้าง 6 เมตร สูง 5 เมตร ภายในตัวจระเข้นี้ทำเป็นห้องประชุมขนาด 25-30 ที่นั่ง  

สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ ลักษณะอาคารเป็นรูปดาวเก้าแฉก ยื่นลงไปในบึงสีไฟ ภายในประกอบด้วยตู้แสดงพันธุ์ปลามากกว่า 20 ชนิด และมีการสับเปลี่ยนชนิดของปลาเป็นประจำ นอกจากนั้นตรงส่วนกลางของอาคารยังทำเป็นช่องเปิด สำหรับชมปลาในบึงสีไฟซึ่งมีพันธุ์ปลาชนิดต่างๆ มาชุมนุมเป็นจำนวนมาก เพื่อรอกินอาหารที่นักท่องเที่ยวโปรยลงในบึง

2.วัดท่าหลวง

ที่อยู่ : ตำบล ในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร พิจิตร 66000

ขอบคุณรูปภาพจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

วัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่อายุนับร้อยปี อันเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อเพชร" พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนที่มีอายุกว่า 800 ปี ซึ่งหล่อด้วยทองสำริด และมีพุทธลักษณะงามล้ำเกินคำบรรยาย องค์พระมีหน้าตักกว้าง 1.40 เมตร สูง 1.60 เมตร ตามประวัติเล่าว่าพระพิจิตรผู้เป็นเจ้าเมืองอยากได้พระประธานมาประดิษฐานที่เมืองพิจิตร เมื่อทัพกรุงศรีอยุธยาเดินทางผ่านเมืองเพื่อไปปราบขบถจอมทองเมืองเชียงใหม่ พระพิจิตรจึงได้ขอร้องแม่ทัพว่าหากปราบขบถเสร็จแล้ว ขอให้หาพระพุทธรูปมาฝาก ครั้นเมื่อเสร็จศึก แม่ทัพนั้นได้อาราธนาพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร ลงแพลูกบวบล่องมาทางแม่น้ำปิง โดยฝากเจ้าเมืองกำแพงเพชรไว้ จากนั้นได้อาราธนาหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานไว้ ณ อุโบสถวัดนครชุมก่อน แล้วจึงย้ายมาประดิษฐานที่พระอุโบสถวัดท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตรจนถึงปัจจุบันนอกจากนี้วัดท่าหลวงยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในช่วงต้นเดือนกันยายนอีกด้วย

3.อุทยานเมืองเก่าพิจิตร

ที่อยู่ : ตำบล เมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตร พิจิตร 66000

ขอบคุณรูปภาพจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

อีกสถานที่ที่อยากแนะนำนักท่องเที่ยวทุกคนให้มาเที่ยว คืออุทยานเมืองเก่าพิจิตร ตั้งอยู่ตำบลโรงช้าง อำเภอเมืองพิจิตร อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เส้นทางสายพิจิตร-สามง่าม-วังจิก ทางหลวงหมายเลข 115 และทางหลวงหมายเลข 1068 ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 6 เชื่อกันว่าที่นี่คือที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า สร้างในสมัยพระยาโคตรบอง ประมาณปี พ.ศ. 1601 สังเกตได้จากภายในบริเวณกำแพงเมืองที่มีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่เศษนั้น มีลักษณะเป็นเมืองโบราณ ประกอบไปด้วยกำแพงเมือง คูเมือง เจดีย์เก่า ฯลฯ มีสวนรุกขชาติกาญจนกุมาร ซึ่งกรมป่าไม้ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2520 ทำให้พื้นที่ภายในมีความร่มรื่นเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ

ไฮไลต์น่าชม เช่น ศาลหลักเมือง เป็นอาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ด้านบนจะเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง ส่วนด้านล่างจะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระยาโคตรบองซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "พ่อปู่" วัดมหาธาตุ เป็นโบราณสถานก่อด้วยอิฐที่ตั้งอยู่กึ่งกลางเมืองพิจิตรเก่า ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านเก่า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ และที่สำคัญ คือไม่ควรพลาดชม "พระธาตุเจดีย์" เจดีย์ทรงลังกาซึ่งภายในมีพระเครื่องชนิดต่าง ๆ ซึ่งได้ถูกลักลอบขุดค้นไป ถ้ำชาละวัน สัมผัสวรรณคดีชื่อดังเรื่องไกรทอง บทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 ได้ที่นี่ โดยมีลักษณะเป็นถ้ำลึกลงไปในดิน ด้านหน้ามีรูปปั้นไกรทองและชาละวันที่ทางจังหวัดได้สร้างไว้ มีเรื่องเล่าว่า เมื่อประมาณ 65 ปีมาแล้ว พระภิกษุวัดนครชุมรูปหนึ่งจุดเทียนไขเดินเข้าไปในถ้ำ จนหมดเทียนเล่มหนึ่งก็ยังไม่ถึงก้นถ้ำ จึงไม่ทราบว่าภายในถ้ำชาละวันจะสวยงามวิจิตรพิสดารเพียงใด ปัจจุบันดินพังทลายทับถมจนตื้นเขิน และเกาะศรีมาลา เป็นมูลดินคล้ายเกาะเล็ก ๆ กลางคูเมืองนอกกำแพงเก่า มีคูล้อมรอบเกาะแต่ตื้นเขิน สันนิษฐานว่าแต่เดิมน่าจะเป็นป้อมหรือหอคอยรักษาการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งนั่นเอง

การเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ จังหวัดต่าง ๆ นอกจากจะได้รับความสุข ความประทับ ความอิ่มกายสบายใจแล้ว เรายังอาจจะได้เปิดประสบการณ์ใบใหม่ของเราอีกด้วย หากใครที่กำลังมองหาสถานที่เช็กอินแห่งใหม่ ไม่ใกล้ไม่ไกลจังหวัดกรุงเทพมหานคร ลองเลือกจังหวัดพิจิตรเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวดูนะคะ แล้วคุณจะได้รู้ว่ายังมีอะไรแปลกใหม่ที่เราไม่เคยสัมผัสอีกเยอะแยะเลย ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ สำหรับวันนี้ขอตัวไปพักผ่อนเก็บแรงเที่ยวต่อก่อน บ๊าย บาย