ตะลุยถิ่น ตะลุยกิน แดนดินอุดรธานี



20 Feb 2018

       “หนองประจักษ์คู่เมือง  ลือเลื่องแหล่งธรรมะ อารยธรรมบ้านเชียงมรดกโลกห้าพันปี ธานีผ้าหมี่ขิด ธรรมชาติเนรมิตทะเลบัวแดง” และนั่นก็คือคำขวัญของจังหวัดอุดรธานี เมืองใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ วัฒนธรรม และโบราณคดีอันเก่าแก่ แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความทันสมัยและสีสันจนยากจะห้ามใจไม่ให้หลงรักได้ วันนี้เราจึงอยากจะพาชาว ThailandPostMart ไปท่องเที่ยวแดนดินถิ่นอุดรธานีกัน จะมีสถานที่เที่ยวแห่งไหนน่าตะลอนทัวร์บ้างนั้น ตามไปดูกันเล้ยยยย

1.สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม

        ถือว่าเป็นเเหล่งกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างมากของชาวจังหวัดอุดรธานีเลยทีเดียว เเละที่นี่เเต่เดิมนั้นก็คือหนองน้ำขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า หนองนาเกลือ ก่อนที่ชาวอุดรธานีมักจะมาเรียกกันจนติดปากในภายหลังว่า หนองประจักษ์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองอุดรธานี โดยเป็นเเหล่งน้ำที่สำคัญสำหรับชาวเมืองอุดรธานี ก่อนที่ต่อมาในปี พ.ศ.2530 จะได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบของที่นี่เสียใหม่ให้กลายมาเป็นสวนสาธารณะที่มีความสวยงามเเละเพื่อเป็นการถวายเป็นราชสักการะแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ อีกด้วย พร้อมกับตั้งชื่อเป็น สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เพื่อเป็นเกียรติแก่พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมผู้ทรงก่อตั้งเมืองอุดรธานีขึ้นในปี พ.ศ.2450 โดยภายในนั้นมีความสวยงามเเละมีเกาะกลางน้ำมากมาย โดยมีสะพานเชื่อถึงกันอีกด้วย ทำให้เป็นเเหล่งพักผ่อนของชาวจังหวัดอุดรธานีที่มาเดินเล่นหรือออกกำลังกายกันอย่างมาก รวมทั้งเป็นลานกิจกรรมที่สำคัญอย่างยิ่งอีกเเห่งของอุดรธานี เรียกว่าใครมาเที่ยวจังหวัดอุดรธานีเเล้วหากไม่มาเที่ยวที่นี่เหมือนจะมาไม่ถึงมาก (เปิด 04:00 – 20:00 วันจันทร์ – วันอาทิตย์)

2.อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท

         อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตั้งอยู่ที่อำเภอ บ้านผือ บริเวณเชิงเขาภูพาน โดยครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,430 ไร่ โดยเป็นทั้งเเหล่งโบราณคดีที่สำคัญเเละที่เที่ยวจังหวัดอุดรธานีที่มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยโครงสร้างส่วนใหญ่เเล้วจะเป็นหินทรายที่มีการถูกกัดกร่อนด้วยทั้งเเรงลมเเละเเรงน้ำเกิดเป็นโขดหินน้อยใหญ่ที่มีรูปร่างต่างๆ กันไป เเต่ก็มีหลักฐานไม่น้อยที่เเสดงออกถึงความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของผู้คนในยุคก่อน เเละมีการผูกเรื่องราวเข้ากับตำนานพื้นบ้านของทางอีสาน โดยจุดที่น่ามาชมมากที่สุดเเละถือว่าเป็นไฮไลท์ ก็คงหนีไม่พ้น หอนางอุษา ที่มีลักษณะเป็นโขดหินรูปดอกเห็ด อยู่บนลานหิน โดยมีลักษณะเหมือนห้องพักอย่างมาก โดยจะมีการเดินทางท่องเที่ยวบนเส้นทางที่จะมีไกด์นำทางไปยังจุดต่างๆ ที่น่ามาเที่ยวอย่าง สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจท่องเที่ยว ภายในอุทยานฯ จะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวให้บริการข้อมูลตลอดจนแผนที่ สอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 0 4225 0616, 0 4225 1350 เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-16.30 น. อัตราค่าเข้าชม นักท่องเที่ยวชาวไทยราคา 10 บาท และชาวต่างชาติ ราคา 30 บาท

3.วนอุทยานวังสามหมอ

          วนอุทยานวังสามหมอ นั้นเป็นสถานที่เที่ยวจังหวัดอุดรธานีที่งดงามตามธรรมชาติ โดยมันตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบะยาว ป่าหัวนาคำ ป่าหนองกุงทับม้า ป่านายูง และป่าหนองหญ้าไซ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 18,750 ไร่ โดยมีลักษณะทางภูมิประเทศเป็นเเบบที่ราบ เเละป่าโดยทั่วไปนั้นจะเป็นป่าเเดงหรือที่เราจะรู้จักกันว่าป่าเต็งรัง เเละมีต้นตะเคียนทอง อยู่ด้วย โดยมีลำธารไหลตลอดทั้งปี เเละมีเกาะเเก่งมากมาย ทำให้มีความสวยงามอย่างยิ่ง โดยมีสัตว์ป่าที่คุณจะได้พบเห็นมากมายทั้ง นกเปล้า, ชะมด, อีเห็น เเละบ่าง ส่วนจุดที่น่าสนใจน่าจะอยู่ที่ วังใหญ่ ซึ่งเป็นวังน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปีเลยทีเดียว เเละมีเเก่งหินสลับอยู่มากมาย ทำให้เป็นภาพที่มีความสวยงามอย่างมาก เเละน่ามาท่องเที่ยวอย่างมาในฤดูหนาว ซึ่งจะมีหมอกปกคลุมอย่างมากจนเป็นที่มาของชื่อวนอุทยาน โดยบริเวณนี่สามารถลงเล่นน้ำ พายเรือ หรือจะตกปลาก็สามารถทำได้ ส่วนการเดินทางมาที่นี่นั้นคุณสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 2023 เเล้วมาเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 227 จนมาถึงบริเวณตำบลหนองกุงทับม้า จะมีทางแยกไปยังวนอุทยานโดยเป็นระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะถึงเเล้ว ถือว่าเป็นอีกจุดที่น่ามาเที่ยวอย่างยิ่ง

          

           นอกจากแดนดินถิ่นอุดรจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามแล้ว ที่แห่งนี้ยังมีของกินอร่อย ๆ อย่าง วีทีแหนมเนือง อาหารสุขภาพ รสชาติถูกปาก ต้านโรคด้วยสมุนไพร เสิร์ฟความอร่อยให้คุณถึงถิ่น แต่ถ้าหากใครที่ไม่เคยไปเที่ยวแดนดินถิ่นอุดรเลยสักครั้ง แต่อยากลิ้มลองความอร่อยของวีทีแหนมเนือง ก็สามารถเข้าเว็บไซต์ ThailandPostMart.com สั่งความอร่อยมากินถึงที่บ้านได้เลย ฟรีค่าจัดส่ง เรียกได้ว่าอิ่มทั้งไปเที่ยว อิ่มทั้งคนอยู่ที่บ้าน “ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ เศร้า หรืออารมณ์ไหน ๆ ให้วีทีแหนมเนืองเยียวยาทุกความรู้สึกของคุณกันนะครับ”