ขนมไทย
ความอร่อยเหนือกาลเวลา
วันแรกจำหน่าย
15 พฤศจิกายน 2562
แสตมป์ชุดปีใหม่
2563 ภาพ
“ขนมไทย” สีสันสดใสสวยงาม
สะท้อนเอกลักษณ์ของชาติไทยอย่างโดดเด่น แม้เพียงมองก็ชวนสะดุดตา
และเมื่อได้ลองชิมยิ่งติดใจในความหอมหวานแห่งรสชาติสำหรับขนมไทยบนดวงแสตมป์ทั้ง
4 ชนิด นักออกแบบวางกรอบคิดไว้ให้เป็นขนมที่บรรจุในภาชนะใบตอง
2 ชนิด คือ
ขนมครก และขนมตาล ส่วนอีก 2
ชนิด ไม่ได้บรรจุในภาชนะใบตอง คือ
ขนมกระเช้าสีดา และขนมอาลัว
ขนมครก
ทำจากแป้ง น้ำตาล และกะทิ แล้วเทลงบนเตาหลุม
เวลาจะรับประทานต้องแคะออกมาเป็นแผ่นวงกลม นิยมใส่กระทงใบตอง และมักวางประกบกันตอนรับประทาน
เป็นขนมไทยโบราณมีหลักฐานว่าเป็นที่แพร่หลายมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา
แต่เดิมใช้ข้าวเจ้าแช่น้ำ โม่รวมกับหางกะทิ ข้าวสวย และมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ผสมเกลือเล็กน้อยใช้เป็นตัวขนม
ส่วนหน้าของขนมครกเป็นหัวกะทิ สำหรับ “ขนมครกชาววัง”
จะมีการดัดแปลงหน้าขนมครกให้แปลกไปอีก เช่น หน้ากุ้ง หน้าไข่ หน้าหมู หน้าเผือก
หน้าข้าวโพด และหน้าต้นหอม
ขนมกระเช้าสีดา
มีที่มาจากต้นกระเช้าสีดาในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว
โดยตัวขนมทำจากมะพร้าวแก้วรสหวาน มีหลากหลายสีสันเพื่อความสวยงาม
ใส่ในกระเช้าที่ทำจากแป้ง จากนั้นตกแต่งด้วยดอกไม้น้ำตาลเล็ก ๆ
เพื่อเพิ่มความน่ารับประทาน นับเป็นขนมไทยโบราณที่หารับประทานค่อนข้างยาก
เนื่องจากต้องใช้ความประณีต และความละเอียดอ่อนในการทำสูง หากคนทำไม่มีฝีมือจริง ๆ
ตัวกระเช้าอาจเบี้ยวและไม่สวยงามได้ จัดเป็นขนมไทยระดับงามสะดุดตา รสชาติสะดุดใจอีกชนิดหนึ่ง
ขนมอาลัว ทำจากแป้ง ผิวด้านนอกเป็นน้ำตาลแข็ง ด้านในเป็นแป้งหนืด มักทำเป็นอันเล็ก
ๆ มีหลายสี มีกลิ่นหอมหวาน ชื่ออาลัวมีความหมายว่า “เสน่ห์ดึงดูดใจ” แบ่งได้เป็น 2
ชนิด คือ อาลัวชาววัง และอาลัวจิ๋ว โดยมีความแตกต่างกันคือ
อาลัวชาววังมีขนาดใหญ่กว่า และมีส่วนผสมของกะทิมากกว่าอาลัวจิ๋ว
มีต้นกำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกส ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยครั้งแรกโดย
“ท้าวทองกีบม้า” นามบรรดาศักดิ์ของข้าราชสำนักฝ่ายในมีหน้าที่ประกอบประดิษฐ์เครื่องเสวย
มีชื่อเต็มว่า มารีอา กูโยมาร์ เด ปิญญา หรือเรียกสั้น ๆ ว่า มารี กีมาร์
ขนมตาล
จัดเป็นขนมไทยดั้งเดิม เนื้อขนมมีลักษณะเป็นแป้งสีเหลืองเข้ม นุ่ม ฟู
มีกลิ่นตาลหอมหวาน ทำจากเนื้อตาลที่สุกงอม แป้งข้าวเจ้า กะทิ และน้ำตาล
ผสมกันตามกรรมวิธี ใส่กระทงใบตอง โรยมะพร้าวขูด และนำไปนึ่งจนสุก
สำหรับเนื้อลูกตาลยีที่เป็นส่วนผสมในการทำขนมตาล ได้จากการนำผลตาลที่สุกจนเหลืองดำ
เนื้อข้างในมีสีเหลือง มีกลิ่นแรง ซึ่งส่วนมากจะหล่นจากต้นเอง มาปอกเปลือกออก
นำมายีกับน้ำสะอาดให้หมดสีเหลือง นำน้ำที่ยีแล้วใส่ถุงผ้าผูกไว้ให้น้ำตกเหลือแต่เนื้อลูกตาล
ขนมไทยคือสุดยอดของวัตถุดิบชั้นดี
กรรมวิธีละเอียดอ่อน ทั้งยังเก็บซับสิ่งที่รับมาจากต่างชาติอย่างแนบเนียน
กระทั่งกลมกลืนเป็นเอกลักษณ์ขนมไทยเลิศรสตราบปัจจุบัน